วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

‪#‎ลำน้ำเข็ก‬ ‪จังหวัด‎พิษณุโลก‬

‪  
ลำน้ำเข็ก‬ 


   อุ๊ยตาย.....ว้ายกรี๊ด.....ตาเถรตก !! เป็นเสียงที่คุณจะสามารถพบเจอได้เสมอขณะทำกิจกรรม “ล่องแก่ง” โดยเฉพาะหากแก่งนั้นๆ ยิ่งน่าหวาดเสียว.....ตื่นเต้น.....เร้าใจมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ เสียงกรีดร้องราวกับคนเสียสติก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น



ลำน้ำเข็ก  เป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ด้านอ.เขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง บริเวณหน่วยหนองแม่นา จ.พิษณุโลก และไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข 12 (พิษณุโลก - หล่มสัก) เส้นทางลัดเลี้ยวของ ลำน้ำเข็ก ประกอบไปด้วยน้ำตกมากมาย  อาทิ น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์, น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของจ.พิษณุโลก, น้ำตกปอย, น้ำตกแก่งซอง, น้ำตกวังนกแอ่น ทั้งยังมีแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้


ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำใสสงบสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มข้น เชี่ยวกรากรุนแรง  ซึ่งแม้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ ในช่วงนี้ แต่นับว่าฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกเร้าใจ 







ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง กับ 8 แก่ง  นักล่องแก่งผจญภัย จะพบกับความตื่นเต้นตลอดเส้นทาง นับตั้งแต่เริ่มต้น ที่ท่า ปากยาง ล่องไปถึงท่าขึ้นส่วนตัว ภายใน วนธารา เฮลท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา และต้อนรับด้วยเครื่องดื่ม และอาหารว่าง รวมระยะทาง 8 กิโลเมตร



เสน่ห์ของแก่งลำน้ำเข็ก คือ ธรรมชาติของแก่งต่าง ๆ  ในลำน้ำเข็ก จะมีการไต่ระดับความยากง่ายจากระดับ 1-2 แล้วเพิ่มความรุนแรงเป็น 3-4 และ 4-5 ในช่วงท้ายของเส้นทาง  ทำให้ผู้ล่องแก่งมีเวลาซักซ้อมฝีไม้ลายมือ ถือเป็นการอุ่นเครื่องไปในตัว



สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัย จะเริ่มตั้งแต่จุดลงเรือ ที่ท่าข้าม กม. 51 อำเภอวังทอง  จังหวัดพิษณุโลก  โดยก่อนจะล่องแก่ง  ทีมงานจะมีการอธิบาย การล่องแก่ง  สภาพลำน้ำ และสาธิตการสวมเสื้อชูชีพ หมวกนิรภัย     จากนั้นจะมีการสาธิตการนั่ง การพายเรืออย่างถูกวิธี และการควบคุมเรือยาง ให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ  รวมทั้งจะมีการแนะนำ การปฏิบัติตัวระหว่างการล่องแก่ง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยว จะต้องฟังคำสั่งนายท้ายเรือ อย่างเคร่งครัด



เส้นทางการล่องแก่ง มีระยะทาง 8 กิโลเมตร ผ่านแก่งต่าง ๆ  8 แก่ง  แก่งท่าข้าม  มีความยากในระดับ 1-2 เพราะน้ำจะนิ่งแต่ ไม่นานนักจะได้พบกับ  แก่งไทร  ซึ่งจัดระดับความยากไว้ที่ 3-4  จากนั้นจะเป็น แก่งมรดกป่า แก่งนี้ฝีพายทางด้านขวาจะต้องทำงานหนัก  เพราะเมื่อผ่านแก่งจะต้องหักเลี้ยวซ้ายทันที ตามกระแสน้ำที่คดเคี้ยว   แก่งนี้ถือว่าสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้ไม่เบา
















 แก่งต่างๆในลำน้ำเข็ก


เมื่อเริ่มลงเรือยางจากท่าน้ำทรัพย์ไพรวัลย์ มาได้ไม่ไกลนัก ก็จะสัมผัสกับ

แก่งท่าข้าม

เป็นแก่งที่ไม่ใหญ่นักสามารถทำการฝึกการบังคับเรือความยากอยู่ที่ประมาณ 1  2 เท่านนั้น ในช่วงที่น้ำน้อย ก็มีโขดหินโผล่พ้นน้ำพอให้ออกกำลังกายพอหอมปากหอมคอผ่านพ้อนแก่งท่าข้ามจะพบน้ำนิ่งอยู่สักพัก สามารถกระโดดลอยคอเล่นได้ล่องแก่งไปสักหน่อยก็จะถึงแก่งไทร

แก่งไทร

เป็นแก่งที่มีความยากในระดับ 3  4 เมื่อผ่านสายน้ำนิ่งมาแล้วสายน้ำจะแยกออกเป็น 2 ทาง ทางซ้ายมือไม่สามารถล่องผ่านไปได้เพราะจะมีโขดหินใหญ่โผล่ออกมามากมาย และมีต้นไม้หนาแน่นจะต้องผ่านทางด้านขวาของสายน้ำซึ่งเป็นช่องทางไม่กว้างนักลักษณะของแก่ง คือ เมื่อเริ่มล่องแก่งได้ประมาณ 10 เมตรสายน้ำจะหักเลี้ยวซ้ายมือทันทีฝีพายทางด้านขวามือต้องทำงานค่อนข้างหนักจึงจะผ่านแก่งมรดกป่าได้

แก่งปากยาง

เมื่อล่องผ่านแก่งมรดกป่ามาได้ไม่ไกลนักจะได้ยินเสียงน้ำดังสนั่นอยู่ด้านหน้า เรียกว่า แก่งปากยาง ที่แก่งน้ำด้านซ้ายของสายน้ำ ฝีพายจะต้องยึดสายน้ำทางด้านซ้ายมือเอาไว้ ความยากของแก่งปากยางจะอยู่ในระดับ 2  3 แล้วแต่ความมากน้ำของกระแสน้ำก่อนจะหมด แก่งปากยางน้ำ จะมีน้ำตกเล็ก ๆ ที่ลดระดับของชั้นหินขวางอยู่ทั้งลำน้ำ มีความสูงต่างระดับกันประมาณ 1 เมตรกว่า ๆ ที่เรียกว่า แก่งหินลาด

แก่งหินลาด

จะเป็นช่วงสุดท้านของแก่งปากยางเป็นหินลดระดับลงห่างกันประมาณ 1 เมตร เมื่อล่องเรือยางมาถึงแก่งนี้แล้ว จะต้องยึดตัวให้อยู่บนเรือ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกกระแสน้ำซัดกระเด็นออกนอกเรือ หรือกระเด็นไปอยู่ที่ด้านหลังหรอด้านหน้าของเรือก็ได้ เมื่อผ่านแก่งนี้ไปได้สายน้ำจะลดความรุนแรงลง กลายเป็นสายน้ำนิ่งไหลเอื่อยอีกครั้ง

แก่งสวนรัชมังคลา

ไม่ไกลจากแก่งน้ำตกหลังสวนนัก จะพบกับทางแยกของสายน้ำอีกครั้ง สามารถไปได้ทั้งซ้ายและขวา แต่ขอแนะนำให้ล่องแพไปทางด้านชวาของสายน้ำจะสนุกตื่นเต้นกว่าทางด้านซ้าย ทางด้านขวาน้ำจะมีหินขวางอยู่กลางลำน้ำ ทำให้ได้สนุกสนานกับการบังคับเรือยางให้ผ่านพ้นไปช่วงปลาย ๆ ของแก่งนี้ จะมีความรุนแรงถึงระดับ 3  4 เลยทีเดียว ถ้าเป็นช่วงนี้น้ำขึ้นสูงมาก ๆ จะมียอดคลื่นสูงเกิน 1 เมตร

แก่งซาง

อยู่ไม่ไกลจากแก่งสวนรัชมังคลา ก่อนที่เรือจะถึงแก่งซางน้ำ สายน้ำจะค่อนข้างราบเรียบ ลักษณะของแก่งซางจะเป็นลานหินกว้างมาก และลดระดับลงในแต่ละช่วง กว่าจะสิ้นสุดแก่งซางนั้น สายน้ำก็ลดระดับลงไม่ต่ำกว่า 10 เมตร แก่งนี้จึงมีความยากในระดับ 4  5 เมื่อเรือยากล่องผ่านน้ำนิ่ง สายน้ำจะหักเลี้ยวซ้าย ทันทีที่เรือเลี้ยวมาตามสายน้ำ ก็จะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของแก่งซาง ความรุนแรงของกระแสน้ำ ที่ลดหลั่นกันลงไปตามเชิงชั้นของแผ่นหินกระเซ้นแตกเป็นฟองกระจาย กว่าจะผ่านแก่งซางไปได้น้ำก็เข้ามาเต็วเรือทีเดียวเพราะฉะน้ำจะต้องบังคับเรือชิดทางด้านฝั่งซ้ายเอาไว้ ถ้าบังคับเรือมากลางสายน้ำ หรือด้านขวาของสายน้ำ ความรุนแกรงของกระแสน้ำจะพัดเรือไปกระแทกหินทางด้านฝั่งขวา อาจจะทำให้เรือพลิกคว่ำได้ แก่งซางนี้จึงนับได้ว่าเป็นแก่งที่ค่อนข้างอันตราย จะต้องนั่งแล้วพยายามยึดตัวเองให้อยู่ในเรือ

แก่งโสภาราม

เป็นแก่งหักศอกรูปตัว ความรุนแรงของกระแสน้ำไม่รุนแรงมากนัก แต่จะโค้งหักศอก

แก่งนางคอย

ลักษณะของแก่งนางคอยจะเป็นการลดระดับของชั้นหิน และกระแสน้ำจะมีความสูงเกือบ 2 เมตร ความยากจะอยู่ในระดับ 4-5 การลดระดับของชั้นหินนั้นจะเอียงจากทางด้านขวาของสายน้ำไปทางด้านซ้ายในแนวเฉียง จึงทำให้เพิ่มความยากขึ้นไปอีก ควรจอดเรือตรงลานหินเหนือแก่ง แล้วเดินไปตรวจดูสภาพของแก่งเสียก่อนว่าควรจะนำเรือยางไปตามล่องน้ำด้านไหน แต่ขอแนะนำให้ลงทางด้านซ้าย แต่ไม่ใช่ซ้ายสุด เพราะทางด้านซ้ายสุด ด้านล่างของแก่งจะมีก้อนหินใหญ่อยู่ 2 กันแพอาจจะพลิกคว่ำได้ ถ้าล่องผ่านแก่งนางคอยแล้วสามารถบังคับเรือกลับไปล่องน้ำด้านขวามือสุดจะเป็นร่องน้ำเล็ก ๆ ก็จะสามารถนำเรือขึ้นไปล่องลนแก่งนางคอยได้อีก ถ้าต้องการเพิ่มความสนุกสนาน

แก่งยาว

แก่งยาวจะมีความยาวกว่า 100 เมตร สมกับชื่อของแก่งกว่าจะล่องผ่านแก่งยาวไปได้ก็สะบักสะบอมกันเอาเรื่องทีเดียว ลักษณะของแก่งยาวจะเป็นแก่งที่สายน้ำจะผ่านโขดหินมากมาย และจะค่อย ๆ ลดระดับลาดเอียงลงสู่ด้านหน้าของแก่งควรจะบังคับเรือยางให้เข้าร่องน้ำทางด้านซ้ายก่อนจะสิ้นสุด ปลายแก่งจะมีก้อนหินใหญ่ขวางอยู่ต้องบังคับเรือหลบหลีกให้ทัน ไม่เช่นนั้นเรืออาจจะกระแทกกับหินทำให้เกิดอันตรายได้ ความยากของแก่งนี้จะอยู่ในระดับ 3  - 4 แล้วแต่ระดับของน้ำ

เมื่อล่องแพผ่านทั้งแก่งซางแก่งนางคอย และแก่งยาวมาได้แล้วแก่งต่าง ๆ ที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่ใช่เป็นแก่งที่ยาก ไม่ว่าจะเป็นแก่งคงสัก หรือแก่งวังน้ำเย็น ที่มีความยากในระดับ 1  2 เท่านั้น สามารถลงไปลอยคอผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้เย็นสบาย จนถึงจุดขึ้นฝั่งที่แก่งทักขุนไทได้อย่างสนุกสนานทีเดียว รวมแล้วผ่านมา 18 แก่ง






ข้อควรระวังในการล่องแพลำน้ำเข็ก

ลำน้ำเข็กค่อนข้างจะมีความรุนแรงเชี่ยวกรากในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุก นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถลงเล่นน้ำตกต่าง ๆ ได้ แต่ในช่วงฤดูฝนนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเล่นเรือยางล่องแก่งต่าง ๆ ได้อย่างสนุกสนานเร้าใจเป็นอย่างมาก แต่นักท่องเที่ยวที่จะมาล่องแก่งที่ลำน้ำเข็กนั้นควรจะต้องว่ายน้ำเป็น มีร่างกายและใจที่พร้อม และรู้จักระมันระวังตนเองเพราะสายน้ำแห่งนี้ยิ่งมีกระแสน้ำรุนแรงเท่าใด อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้มากยิ่งขึ้น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น